ฟังก์ชันแถวของ Excel
พูดง่ายๆว่าฟังก์ชัน“ ROWS” ใน excel จะส่งกลับจำนวนแถวที่เลือกในช่วง มันแตกต่างจากฟังก์ชัน row โดยที่ฟังก์ชัน row ให้หมายเลขแถวสำหรับเซลล์ที่เลือกแทนฟังก์ชัน row จะใช้อาร์เรย์ของแถวเป็นอาร์กิวเมนต์และให้จำนวนแถวในอาร์เรย์นั้นซึ่งเป็นฟังก์ชันอ้างอิงเพื่อระบุ จำนวนแถวในอาร์เรย์ที่กำหนด
อาร์เรย์ไม่ใช่อะไรนอกจากการอ้างอิงเซลล์ การอ้างอิงเซลล์อาจเป็นเซลล์เดียวหรือช่วงของเซลล์
วิธีใช้ฟังก์ชัน Rows ใน Excel (พร้อมตัวอย่าง)
คุณสามารถดาวน์โหลดเทมเพลต Excel ของ Rows Function ได้ที่นี่ - เทมเพลต Excel ของ Rows Functionตัวอย่าง # 1 - การใช้การอ้างอิงเซลล์แถว
ลองดูตัวอย่างง่ายๆของฟังก์ชัน ROWS
ในเซลล์ B3 ฉันจะเปิดฟังก์ชัน ROWS ในอาร์กิวเมนต์อาร์เรย์ฉันจะให้การอ้างอิงเซลล์เป็น A1
ฉันจะปิดวงเล็บและกด Enter ดูว่าเราได้อะไร
เนื่องจากมีการเลือกเพียงเซลล์เดียวจึงส่งคืนผลลัพธ์เป็น 1
ตอนนี้ฉันจะเปลี่ยนการอ้างอิงเซลล์จาก A1 เป็น A1: A3
ตอนนี้ปิดสูตรและดูว่าผลลัพธ์คืออะไร
คราวนี้เราได้ผลลัพธ์เป็น 3
สาเหตุที่เราได้ผลลัพธ์เป็น 3 เพราะดูการอ้างอิงเซลล์อย่างใกล้ชิดมันบอกว่า A1: A3 คือเลือกแถวทั้งหมดสามแถวในช่วงของเซลล์
ตัวอย่าง # 2 - การใช้การอ้างอิงเซลล์คอลัมน์
ฟังก์ชัน ROWS จะนับเฉพาะจำนวนแถวที่ถูกเลือกในการอ้างอิง ตอนนี้ฉันจะใช้สูตรในเซลล์ B3 ดังต่อไปนี้
ฉันให้การอ้างอิงเซลล์เป็น A1: C1 มาดูกันว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร
ถึงแม้จะเลือก 3 เซลล์ก็ยังได้ผลลัพธ์เป็น 1 เท่านั้น !!!
เนื่องจากเราได้เลือกเซลล์ 3 เซลล์ในแถวเดียวกันคือเซลล์ต่างคอลัมน์ เนื่องจากเราได้เลือกช่วงของเซลล์ในแถวเดียวกันเราจึงได้ผลลัพธ์เป็น 1 เท่านั้น
ดังนั้น ROWS Formula จึงไม่สามารถนับ COLUMNS ใน excel ได้ที่นี่
ตัวอย่าง # 3 - จำนวนแถว
ฟังก์ชัน ROWS จะนับเฉพาะจำนวนแถวที่มีในการอ้างอิงตอนนี้ดูตัวอย่างนี้
ฉันให้การอ้างอิงเซลล์เป็น A4 เช่นแถวที่ 4 ของแผ่นงานกด Enter และดูว่าผลลัพธ์คืออะไร
โอ้ย !!! ผลลัพธ์คือ 1 แม้ว่าเราจะเลือกแถวที่ 4 ของแผ่นงานแล้วก็ตาม
ดังที่เราได้บอกไว้ในตอนต้นฟังก์ชัน ROWS จะไม่ส่งคืนหมายเลขแถว แต่จะส่งคืนเฉพาะจำนวนแถวที่เลือก ในกรณีนี้เนื่องจากเราได้เลือกเพียงแถวเดียวผลลัพธ์จึงเป็น 1 ไม่ใช่ 4
ตัวอย่าง # 4 - ใส่หมายเลขซีเรียล
เราสามารถใช้ฟังก์ชัน ROWS เพื่อแทรกหมายเลขซีเรียลจาก 1 ได้เช่นปกติเราจะแทรกหมายเลขซีเรียลจากเซลล์ A2 ดังนั้นเราจะแสดงวิธีการแทรกหมายเลขซีเรียลด้วยสูตร ROWS ใน excel
เปิดฟังก์ชัน ROWS ในเซลล์ A2
เลือกการอ้างอิงเซลล์เป็น A2: A2
สำหรับเซลล์แรกการอ้างอิงทำให้การอ้างอิงเป็นค่าสัมบูรณ์ $ ก $ 2: A2.
ตอนนี้กดปุ่ม Enter โดยการกดปุ่ม Enter เราควรได้ผลลัพธ์เป็น 1
ตอนนี้เพียงลากสูตรลงเพื่อรับหมายเลขซีเรียล
เนื่องจากเราได้ทำการอ้างอิงส่วนแรกของเซลล์เป็นค่าสัมบูรณ์มันจะยังคงเหมือนเดิมเมื่อเราลากลง แต่ส่วนเซลล์อื่นของการอ้างอิงเซลล์จะเปลี่ยนจาก A2 เป็น A3, A3 เป็น A4 และอื่น ๆ
ความแตกต่างระหว่าง ROW & ROWS
หลังจากรู้จักฟังก์ชัน ROWSแล้วสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่ามันแตกต่างจากฟังก์ชัน ROWใน excel อย่างไร ทั้งคู่สับสนมากดังนั้นเราจะจัดการเรื่องนี้ในตอนนี้
ฟังก์ชัน ROW จะส่งคืนหมายเลขแถวของเซลล์ที่เลือกในแผ่นงาน ตัวอย่างเช่นถ้าเราเลือกการอ้างอิงเซลล์เป็น A3 โดยใช้ฟังก์ชัน ROW
เนื่องจาก A3 เป็นแถวที่ 3 ในแผ่นงานเราจึงได้ผลลัพธ์เป็น 3
แต่ในทางกลับกันถ้าเราป้อนการอ้างอิงเซลล์เดียวกันโดยใช้ฟังก์ชัน ROWS
เราจะได้ผลลัพธ์เป็น 1
เนื่องจากฟังก์ชัน Excel ROWS ส่งกลับการนับจำนวนแถวที่เลือกในช่วง
ดังนั้นฟังก์ชัน ROW จะส่งคืนหมายเลขแถวของเซลล์ที่เลือกและฟังก์ชัน ROWS จะส่งคืนจำนวนแถวที่เลือกใน excel